เมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) ได้เกิดเหตุอาคารพาณิชย์ถล่มในนครเซี่ยงไฮ้ระหว่างทำการปรับปรุงซ่อมแซมอาคาร และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยในวันนี้ (17 พ.ค.) ว่าได้ช่วยเหลือออกมาแล้ว 25 คน และ 10 รายในนั้นเสียชีวิตแล้ว โดยอาคารขนาดเตี้ยนี้ถล่มลงมาประมาณครึ่งหนึ่งเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.ตามเวลาประเทศจีน พร้อมโค่นเสาคอนกรีตและท่อนไม้ลงทับคนงานด้านล่าง มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งกู้ร่างของคนงานที่โชกด้วยเลือดและเต็มไปด้วยฝุ่นออกมาจากซากปรักหักพังตลอดช่วงบ่ายและค่ำของเมื่อวานนี้
ขณะที่ประกาศของทางการปกครองส่วนท้องถิ่นผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดียนั้น
ไม่ได้ระบุชัดเจนว่ายังมีผู้ติดอยู่ภายในอีกหรือไม่ แต่ระบุเพียงว่า ‘การช่วยเหลือนั้นเสร็จสิ้นแล้ว’ และ ‘ทีมแพทย์ได้พยายามสุดความสามารถในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ’ ทั้งนี้ อาคารดังกล่าวเคยถูกใช้เป็นศูนย์รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ แต่เปลี่ยนมือและอยู่ระหว่างการบูรณะใหม่ให้เป็นอาคารจัดแสดงศิลปะผสมผสานและนวัตกรรม
เหตุการณ์ตึกถล่มที่คร่าชีวิตคนเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศจีน โดยสาเหตุมักจะมาจากการก่อสร้างอาคารที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่คำนึงถึงระบบความปลอดภัยต่างๆ โดยในปี 2559 นั้นมีเหตุการณ์ตึกสูงหลายชั้นจำนวนหลายตึกในเมืองทางตะวันตกของจีนอย่าง Wenzhou ถล่มลงทับคนงานทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย
วันที่ 10 พ.ค. จากกรณี 2 พิธีกรชายหญิงรายการ รายการ Frhstcksfernsehen ได้ทำท่าล้อเลียนการหมอบกราบในงานพระราชพิธีของไทยด้วยความไม่เหมาะสม จนนำไปสู่กระแสโจมตีอย่างมากถึงความไม่เคารพความต่างทางวัฒนธรรมจน ทางเฟซบุ๊กรายการต้องออกมาขอโทษว่าไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นวัฒนธรรมนั้น
คืบหน้าล่าสุดพิธีกรรายการทั้ง 2 คน ได้ออกมายกมือไหว้ขอโทษในรายการอีกครั้งหนึ่งที่ได้กระทำการล้อเลียนดังกล่าวไป โดยพิธีกรหญิงบอกว่าเธอทั้งรู้สึกโกรธและเสียใจ จึงอยากขอโทษชาวไทยทุกคนจากใจจริง ด้านพิธีกรชายกล่าวว่า ไม่มีเจตนาสร้างความโกรธหรือไม่พอใจแก่ฝ่ายใด นับเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของเขา และไม่ขอแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น
วันที่ 8 พ.ค. กลายเป็นกระแสดราม่าข้ามโลกหลังงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อรายการหนึ่งของประเทศเยอรมัน คือ SAT.1 Frühstücksfernsehen 2 พิธีกรชายหญิงได้แสดงท่าทางล้อเลียนพิธีหมอบคลานของไทยในลักษณะตลกขบขัน สร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนไทยจำนวนมาก เนื่องจากมองว่าเป็นการดูหมิ่นและไม่เคารพความแตกต่างของวัฒนธรรม ต่อมารายการก็ได้ลบคลิปดังกล่าวทิ้งไป
ต่อสถานการณ์ดังกล่าว ล่าสุดทางรายการได้ออกมาขอโทษผ่านเพจเฟซบุ๊กใจความว่า ที่ทางรายการกล่าวถึงส่วนหนึ่งของพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้น มิได้มีเจตนาดูถูกวัฒนธรรมในทางใดทางหนึ่ง หากเกิดความผิดพลาดแะลสร้างความไม่พอใจ ทางรายการขออภัยอย่างเป็นทางการ
ศาลสั่งแบน “เดวิด แบคแฮม” ขับรถ 6 เดือน ฐานใช้มือถือตอนขับรถ
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. สื่อต่างประเทศรายงาน เดวิด เบ็คแฮม อดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษ ถูกศาลเมืองบรอมลีย์ ประเทศอังกฤษ ลงโทษห้ามแบ็คแฮมขับรถเป็นเวลานาน 6 เดือน จากข้อหาใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ปี 2561 อย่างไรก็ดีแบคแฮมสารภาพข้อกล่าวหา
วันที่ 7 พ.ค. จากกรณีประเทศบรูไนเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอิสลาม หรือ กฎหมายชะรีอะฮ์อย่างเข้มงวด มีกฎหมายลงโทษคนรักร่วมเพศด้วยการปาหินจนตาย หรือจำคุก 10 ปี มีผลบังคับใช้ตั้งเเต่วันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา จนนำไปสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์และโจมตีจากทั่วโลกถึงความป่าเถื่อนล้าหลังของกฎหมายดังกล่าว
ท่าทีล่าสุดของสมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไน พระองค์ได้ทรงประกาศระงับกฎหมายลงโทษประหารชีวิตข้อหาพฤติกรรมรักร่วมเพศและการล่วงประเวณีแล้ว และทรงให้คำมั่นสัญญาต่อต้านการทรมาน ซึ่งประเทศบรูไนได้ลงนามกับสหประชาชาติเมื่อหลายปีก่อน
เหตุการณ์เครื่องบินซูคอย ซูเปอร์เจ็ต 100 ของสายการบินสัญชาติรัสเซีย ‘แอโรฟลอต’ (Aeroflot) ไหม้กลางอากาศขณะบินวนกลับมาจอดฉุกเฉินที่สนามบินเชเรเมตีโว (Sheremetyevo International Airport) ในกรุงมอสโกวานนี้ (5 พ.ค.) ล่าสุดมียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 41 ศพแล้วและอย่างน้อย 2 ศพในนั้นเป็นเด็กเล็ก
จากภาพที่บันทึกได้จากอาคารผู้โดยสารเผยให้เห็นเครื่องบินลำดังกล่าวกำลังไถลด้วยความเร็วโดยมีไฟลุกท่วมบริเวณส่วนท้าย ผู้โดยสารบางส่วนสามารถหนีออกมาทางบันไดฉุกเฉินได้ และพากันวิ่งออกห่างตัวเครื่องบินขณะที่รถดับเพลิงขับเข้ามาในที่เกิดเหตุ
คณะกรรมาธิการสืบสวนยืนยันว่า “มีผู้โดยสารและลูกเรืออยู่บนเครื่องทั้งหมด 78 คน จากข้อมูลที่ทีมสืบสวนได้ทราบล่าสุด มีผู้รอดชีวิต 37 คน” ก่อนหน้านั้น นายกรัฐมนตรี ดมิตรี มัตเวเยฟ ระบุว่ามีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 11 คนจากอุบัติเหตุครั้งนี้
เครื่องบินลำนี้กำลังออกเดินทางไปยังเมืองมูร์มันสค์ (Murmansk) ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ โดยแอโรฟลอตซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติยืนยันว่า เครื่องบินลำนี้ได้วกกลับไปลงจอดที่สนามบินเชเรเมตีโว ‘ด้วยเหตุขัดข้องทางเทคนิค’ และเครื่องยนต์เกิดไฟไหม้ระหว่างลงจอด ขณะที่รายงานอื่นๆ ระบุว่าส่วนหางเริ่มเกิดไฟลุกไหม้ตั้งแต่เครื่องลอยอยู่กลางอากาศ
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง